สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) จัดงาน เสวนา “การสร้างสรรค์ เพิ่มมูลค่าทางการท่องเที่ยว ให้แตกต่างอย่างมีที่มาเพิ่มมูลค่าวิถีไทย” โดยได้รับเกียรติจาก นายมงคล สุกใส รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธาน พร้อมด้วย อาจารย์ชัยธวัช เสาวพนธ์ กรรมการบริหารการพัฒนาพิงคนคร และ นางเนตรนภา สุทธิธรรมดำรง รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร เข้าร่วมการเสวนาในครั้งนี้ด้วย ณ ห้องลีลาวดี ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา
อาจารย์ชัยธวัช เสาวพนธ์ กรรมการบริหารการพัฒนาพิงคนคร กล่าวว่า การเสวนา “การสร้างสรรค์ เพิ่มมูลค่าทางการท่องเที่ยว ให้แตกต่างอย่างมีที่มาเพิ่มมูลค่าวิถีไทย” ในครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อหาแนวทางเสริมสร้างมูลค่าด้านการท่องเที่ยวให้มีขีดสมรรถนะสูง เพื่อเข้าสู่การแข่งขันด้านการท่องเที่ยวกับประเทศในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) และจะเป็นแนวร่วมในการที่จะช่วยผลักดันให้เชียงใหม่ มีความโดดเด่นด้านการท่องเที่ยวที่มีคุณค่าในเชิงสร้างสรรค์ อีกทั้งเป็นการสนองนโยบายรัฐบาลในการมุ่งสู่ “Thailand 4.0 High Value Tourism” ที่มองว่าการพัฒนาของประเทศต้องเป็นการพัฒนาที่ไปสู่ที่เรียกว่าการก้าวกระโดด เรามองดูว่านักท่องเที่ยวที่จะมาเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเพิ่มขึ้นทุกปี นักท่องเที่ยวจีนก็เพิ่มขึ้น สองเท่าทุกปี และนักท่องเที่ยวจากอเมริกาเหนือ สหรัฐอเมริกา แคนาดา ก็เพิ่มขึ้นสองเท่าทุกปีเช่นกัน เพราะฉะนั้นตอนนี้ไม่พียงแต่ว่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนมาเที่ยวเท่านั้น แต่ก็มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ มาเที่ยวด้วยเช่นกัน สาเหตุที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะจังหวัดเชียงใหม่ของเรามีสนามบินนานาชาติ และเดี๋ยวนี้มีเที่ยวบินตรงมาเยอะ เพราะฉะนั้นเราจึงมีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก สิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนไปอีกอย่าง คือนักท่องเที่ยวจีนที่มาเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ตอนนี้ประเภททัวร์ศูนย์เหรียญ เรียกได้ว่าไม่น่าจะมีแล้ว จะเป็นนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อมากขึ้น เพราะฉะนั้นเรามองว่าในสิ่งที่เปลี่ยนไป นักท่องเที่ยวที่มาจังหวัดเชียงใหม่ คุณภาพดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นเราจะทำอย่างไรเพื่อให้เค้ามาจับจ่ายใช้สอยให้กับคนท้องถิ่นมากขึ้น ดังนั้น Thailand 4.00 Hight Value tourism เพื่อจะพัฒนาประเทศชาติ เราต้องพัฒนาระบบการเที่ยวของเรา เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง ซึ่งเป็นที่มาของการจัดงานในวันนี้ครับ
นอกจากนี้เราต้องการให้คนที่อยู่ในธุรกิจท่องเที่ยวมาลองเปลี่ยนแนวคิด วันนี้ที่มีวิทยากรท่านหนึ่ง ดร.มิ่งสรรพ์ ขาวสะอาด ทำวิจัยเรื่องการท่องเที่ยวมาเยอะ ท่านให้ความคิดเห็นว่าตอนนี้ นักท่องเที่ยวที่มาเมืองไทยคิดว่าประเทศไทยเป็นที่หนึ่งในอาเซียน ซึ่งเรามีรายได้จากนักท่องเที่ยวมาเที่ยวเป็นอันดับ 3 ของโลก เพราะฉะนั้นเราต้องอย่ามองว่าของเราเป็นของถูกอย่างเดียว คนที่มาเที่ยวต้องการอะไรเพิ่มขึ้น ต้องการประสบการณ์ในการมาใช้ชีวิต เช่นในกรณีที่บ้านเรามีสองแถวมีรถสี่ล้อแดง บางคนบ่นว่าสองแถวไม่ดี ซึ่งผมมีโอกาสได้อ่านบทความของBlogger อาชีพที่อยู่เชียงใหม่ สิ่งหนึ่งที่ Blogger เขียน เค้าบอกว่าสองแถวสี่ล้อแดงคือเสน่ห์หนึ่งของเชียงใหม่ เพราะฉะนั้นเราอาจต้องมาเปลี่ยนแนวคิดว่าบางอย่างที่เราคิดว่าไม่ดี นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ อาจมองว่าดี ดังนั้นเราอยากให้คนที่อยู่ในธุรกิจท่องเที่ยวเริ่มเปลี่ยนทัศนคติใหม่ ว่าเราควรจับตลาดที่สูงขึ้น และหากเราเพิ่มมูลค่าเพิ่มแข่งกับญี่ปุ่น ไต้หวัน เกาหลี อย่างเช่นที่เกาหลีตอนนี้จะมีทัวร์กลางคืน ไปดูการแสดงละครใบ้ซึ่ง เชียงใหม่ยังไม่มี ดังนั้นเราต้องหาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ กิจกรรมใหม่ๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยวใช้เวลาอยู่เชียงใหม่นานขึ้น และใช้จ่ายมากขึ้นครับ
โดยการเสวนาฯ นี้ ได้รับเกียรติจากผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายสถาบันมาร่วมเป็นวิทยากรให้ความรู้และเป็นแนวทางในการพัฒนาธุรกิจ อาทิ ศาสตราจารย์ ดร.มิ่งสรรพ์ ขาวสะอาด ศาสตราจารย์เกียรติคุณผู้เชี่ยวชาญทางด้านการท่องเที่ยว, ผศ.ดร.ประกอบศิริ ภักดีพินิจ รองคณบดี ฝ่ายวิชาการคณะวิทยาการจัดการและสารสนเทศศาสตร์ และอาจารย์ประจำสาขาวิชาการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยพะเยา และดร.อดิษฐ์ ชัยรัตนานนท์ อุปนายก สมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (TTAA) เลขาธิการสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) กรรมการสภาวิจัยแห่งชาติ, ผศ.ดร.จุฑามาศ วิศาลสิงห์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดเพื่อการท่องเที่ยว, คุณกาย ไลย มิตรวิจารณ์ ผู้เชี่ยวชาญ/บุคคลผู้เล่าเรื่องมนุษย์และสังคมผ่านอาหาร และคุณวรเดช มณีศรี COO Attitude Club Phuket โดยในการเสวนาครั้งมีผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 200 คน